วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ยินดีต้อนรับเข้าสู่บลอคของคนรักเกมครับ

สวัสดีครับ นี่ก็เป็นบลอคใหม่ของผมนะครับ บางคนอาจจะเคยเข้าบลอคเก่าของผมมาบ้างแล้วใน exteen ซึ่งหลักๆแล้วชื่อที่ผมใช้ก็จะเป็น "คานะไงล่ะ" รึ "Kanyne" เวลาต้องใช้เป็นภาษาอังกฤษนะครับ ก็มาเริ่มเขียนบลอคใหม่อันนี้ หวังว่าจะเป็นความรู้ให้กับคนที่ต้องการซื้อเครื่องเกม Console และ Handheld ต่างๆได้เหมาะสมกับตัวเองในราคาที่ไม่แพงและไม่โดนหลอกจากร้านบางร้านรึผู้ขายสินค้ามือสองบางคนนะครับ



ไหนๆนี่ก็เป็นเอนทรี่แรก ผมก็จะขอเริ่มด้วยเรื่องเบาๆอย่างเกม Handheld อย่าง NintendoDS (Nintendo Dual Screen) และ PSP (Play Station Portable) กันก่อน โดยจะยกข้อดีข้อเสียของแต่ละเครื่องมาเปรียบเทียบให้ดูพร้อมคำแนะนำเพื่อการเลือกซื้อว่าเราควรจะเลือกซื้ออะไรดีระหว่าง PSP กับ DS นะครับ


PSP



PSP เป็นเครื่องเกม handheld ตัวแรกของโซนี่ครับ ความสามารถหลากหลายตามสไตล์ของโซนี่ผู้สร้างอารยธรรม(Sony walkman , Bravia , Vaio เป็นต้น) ตัวเครื่องแสดงผลด้วยหน้าจอที่มีขนาดกำลังเหมาะพอดีสำหรับการเล่นเกมและดูหนังแบบ Wide screen และปู่มกดที่ใช้งานง่าย เราลองมาดูความสามารถหลักๆของ PSP กันเลยดีกว่า

- PSP นั้นจะใช้แผ่น UMD ในการเล่นเกมและหนังครับ
- สามารถดูรูปจากเมมโมรี่สติ๊กได้
- สามารถฟังเพลงจากเมมโมรี่สติ๊กได้ (mp3)
- สามารถดูไฟล์หนังจากเมมโมรี่สติ๊กได้ (mp4)
- มีอุปกรณ์เสริม(ที่ต้องซื้อเพิ่ม) อย่าง กล้อง และ GPS
- สามารถต่ออินเตอร์เนตและเข้าชมเว็บไซท์ได้ด้วยการเชื่อมต่อแบบ Wireless
- สามารถเล่นเกมกับเพื่อนผ่านระบบไวร์เลสได้
- ฟังก์ชั่นอื่นๆเช่น เชื่อมต่อกับ Play Station 3 , การใช้เป็นรีโมทในการควบคุมทีวีรึอื่นๆ



PSP ในเมืองไทย
จากการใช้งานส่วนตัวของผม หลักๆของ PSP คือการฟังเพลง รองลงมาคือการดูหนัง และเล่นเกม ส่วนการเชื่อมต่ออินเตอร์เนตนั้น ยังค่อนข้างหาจุดเชื่อมต่อได้ยาก (ถึงแม้ที่บ้านจะมีไวร์เลสแต่ก็ไม่รู้จะใช้ไปทำไมในเมื่อผมเปิดคอมมาเปิดเว็บสะดวกกว่า) แผ่น UMD นั้นราคาค่อนข้างแพงสำหรับคนทั่วไป (1,200-1,800 บาท) ก็เลยมีการอัพเฟริมแวร์และแก้ไขเครื่องกัน เพื่อให้สามารถอ่านไฟล์เกม จากเมโมรี่สติ๊กได้ โดยไฟล์เกมของ PSP ก็จะมีขนาดตั้งแต่ 200 mb ไปจนถึง 1.6g และมีโปรแกรมจำลองต่างๆอีกมากมายอย่างเช่นโปรแกรมที่ทำให้สามารถเล่น Rom (ไฟล์เกม)ของเครื่อง SFC(Super famicom ) และเครื่องอื่นๆอย่าง GBA , Neogeo , Wanderswan และ PS1 ได้ ก็นับว่าเป็นเครื่องเกมที่ประโยชน์หลากหลายมากขึ้นอยู่กับการใช้งานของเจ้าของเลยล่ะครับ (จะเสียนิดก็ตรงที่เกมดีๆของ PSP นั้นยังน้อยไปมากๆ)



PSP VS PSP slim
มันคืออะไร? ก่อนจะซื้อ PSP เราควรจะรู้ก่อนว่าตอนนี้ Sony ได้ผลิต PSP slim ออกมาซึ่งเป็นรุ่นหลังจาก PSP ตัวแรก ซึ่งจะมีข้อแตกต่างกันนิดหน่อย ลองมาดูกันดีกว่าว่า ข้อแตกต่างที่ว่านั้น คืออะไรบ้าง

- ข้อแตกต่างที่เด่นชัดที่สุดเป็นเรื่องของขนาดครับ slim จะบางและเบากว่า
- slim จะปรับความสว่างหน้าจอได้ 5 ระดับ (จากปกติ 4 ระดับ)
- slim สามารถใช้สาย Component ต่อภาพและเสียงออกทีวีได้
- slim จะมีแรมมากกว่า โหลดเกมจาก UMD ได้ไวกว่า
- ลำโพง slim ถูกย้ายไปอยู่ด้านบน (จากเดิมอยู่ด้านล่าง)
- ช่องใส่แผ่น UMD และ ช่องใส่เมโมรี่สติ๊ก เปลี่ยนไปเล็กน้อยตามภาพ
- หูฟังแบบรีโมทของใครของมัน เอามาใช้กับอีกรุ่นไม่ได้
- Slim ตัวเครื่องจะมีผิวเรียบมันกว่า ตัวอ้วนจะมีผิวด้านๆกว่า(ผมชอบแบบอ้วนกว่าแฮะไม่ลื่นมือดี ^^; )


สรุป
โดยรวมแล้วถ้าใครอ่านแล้วรู้สึกว่าเราได้ใช้ประโยชน์จากเจ้า PSP นี้หลายอย่างและคุ้มแน่ๆ ก็เชิญซื้อมาใช้ได้เลยครับ เชื่อได้เลยว่าอนาคตคงมีเฟิร์มแวร์เพิ่มเติมออกมาให้ทำอะไรได้อีกหลายอย่างแน่นอน ส่วนตัวผมใช้ฟังเพลงเป็นหลัก พกติดตัวทุกวัน นับว่าคุ้มอยู่ครับ และแนะนำให้ซื้อแบบ Slim เพื่อการใช้งานต่างๆในอนาคตดีกว่าครับ(แม้ผมจะใช้เจ้าตัวอ้วนก็ตาม)

เกมที่แนะนำ(นี่แค่ยกตัวอย่างเกมน่าเล่นนะครับ ยังมีมากกว่านี้อีกเยอะเหมือนกัน)
Final Fantasy VII : Crisis Core
DJMAX 1 , 2
Patapon
Jeane D'arc
God of war : Chain of olympus
Yu Gi Oh GX
Tekken
Monster Hunter 2
Harvest moon
Final Fantasy Tactics


ต่อไปจะพูดถึงเจ้า NDS มั่งล่ะนะครับ




ก่อนที่ Nintendo จะวางจำหน่ายเจ้า NDS เนี่ย Nintendo เคยทำเกม Handheld มาก่อนอย่างพวกเกมกด มาจนถึง Game Boy , Game Boy color , Game Boy Advance แล้วก็มาถึงเจ้า NDS ตัวนี้ ที่ทำยอดขายได้ถล่มทลายเพราะมีเกมที่เล่นง่ายๆสบายๆเล่นได้ทุกเพศทุกวัย แม้จะไม่มีความสามารถหลากหลายด้านเท่า PSP แต่ก็นับว่าเป็นเครื่องเกมที่เหมาะกับคนที่ชอบเล่นเกมทุกเพศทุกวัยจริงๆครับ เราลองมาดูความสามารถของเจ้าเครื่องนี้กันดูบ้างดีกว่า

- มีช่องใส่ตลับเล็กๆอยู่ด้านบน สำหรับใส่ตลับของ DS
- มีช่องสำหรับใส่ตลับเกมบอยอยู่ด้านล่าง
- หน้าจอสองหน้าจอ โดยหน้าจอล่างจะเป็นหน้าจอแบบ Touch screen
- สามารถเล่นเกมกับเพื่อนผ่านระบบไวร์เลสได้
- มีโปรแกรมต่างๆอย่างเช่น Dictionary และเกมที่เน้นการสอนอย่างเกมสอนภาษาญี่ปุ่นเป็นต้น



NDS ในเมืองไทย
ด้วยตลับเกมราคาเกมละ 1,200-1,800 บาท (พอๆกะ PSP ) ทำให้ส่วนใหญ่แล้วเราจะเล่น DS กันด้วยตลับแฟลช (ตลับที่มีความจำในตัว หรือใช้เมโมรี่การ์ดอย่าง SD card เปนต้น) ซึ่งจะโหลดเกมจากในอินเตอร์เนตมาใส่ไว้ในตลับเพื่อเล่นเกมนั้น ขนาดไฟล์ก็จะอยู่ที่ราวๆ 20 mb ไปจนถึง 256 mb โดยตลับแฟลชใหม่ๆนั้นก็ทำมาให้ใช้งานง่าย ไม่ต้องดัดแปลงตัวเครื่องเหมือนช่วงแรกๆ หรือต้องมานั่งแปลงไฟล์อะไรให้วุ่นวายอีกต่อไป



NDS VS NDSL
Nintendo ได้ออก Nintendo DS Lite ออกมาทีหลังเพื่อขจัดปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นกับ NDS ตัวแรก ส่วนข้อแตกต่างระหว่าง NDS และ NDSL ก็มีประมานนี้ครับ

- NDSL จะมีขนาดบางและเบากว่า
- ปรับความสว่างหน้าจอได้หลายระดับกว่า(ดีมากๆเพราะรุ่นเก่าหน้าจอมืดเกินไป)
- ข้อพับไม่ดังกึกๆน่ากลัวจะหักเหมือนตัวอ้วนอีกต่อไป
- ปากกาทัชสกรีนขนาดใหญ่ขึ้นนิดนึง จับเหมาะมือกว่า


สรุป
เป็นเครื่องที่เหมาะเอาไว้เล่นเกมเป็นหลักซะมากกว่า ซึ่งก็มีทั้งเกมที่ต้องใช้เวลาเล่นนานๆอย่างพวกเกมภาษา(รึ RPG ) ไปจนถึงเกมวาไรตี้ง่ายๆเล่นแป๊ปๆจบ หรือเกมฝึกสมองอื่นๆ เหมาะกับทุกเพศทุกวัยจริงๆเพราะมีเกมทุกแนวสำหรับทุกคน และก็มีเกมออกมาให้เล่นเยอะมาก จะเอาไว้เล่นแก้เครียดตอนเดินทางรึนั่งรอก็นับว่ายอดเยี่ยมเลยล่ะครับ
เกมที่แนะนำ(เกมเยอะจริงๆครับ DS จริงๆมีมากกว่านี้มากๆแต่คงแนะนำไม่หมดครับ)
Final Fantasy 3 , 4
It's wonderful world
Osu! takakae Ouendan!
Trauma Center
Wario Ware
New Super mario bros
Mario Kart
Phoenix Wright


วันนี้ก็คงมีเท่านี้ก่อน แล้วคราวหน้า ผมจะมาพูดถึงเรื่องเครื่อง Console กันบ้างนะครับ ก่อนไป แปะรูปห้องไว้หน่อยละกันครับผม XD


ปล. ถ้ามีตรงไหนผิดพลาดยังไงขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ^^;

ไม่มีความคิดเห็น: